จากรายงานดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) ช่วงที่ผ่านมา กทม.-ปริมณฑล ค่าฝุ่นละอองยังเกินมาตรฐานต่อเนื่อง โดยอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ การใช้ชีวิตในเมืองนั้นเลี่ยงไม่ได้กับการเดินทางเพื่อไปพบปะหรือติดต่อในสถานที่ต่าง ๆ อาจต้องเผชิญกับปัญหาการจราจรต่าง ๆ รวมไปถึงมลภาวะที่เป็นพิษต่าง ๆ ไม่ว่าจะจากควันรถหรือฝุ่นควันดังกล่าว
ซึ่งการสวมหน้ากากN95 อาจจะช่วยป้องกันปอดคุณจากฝุ่น PM 2.5 ได้ แต่ผิวหน้าคุณอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะสัมผัสกับฝุ่นดังกล่าว ซึ่งมีผลทำให้ผิวเสื่อมตัวได้อย่างรวดเร็ว จนมีงานวิจัยต่างประเทศที่กล่าวถึงปัญหาหลักๆ ที่พบเลยคือ
1. ผิวแพ้ง่าย ระคายเคือง (Sensitive Skin)
เนื่องมาจากPM2.5 จะไปเกาะที่เซลล์ที่อยู่ชั้นบนสุดของผิว(Skin Barrier) ซึ่งทำหน้าที่เป็นปราการด่านแรกในการป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก หรือสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้ามาในชั้นผิวเรา โดย PM2.5 จะทำให้เกิดสาร Free Radicals จึงทำให้ผิวเกิดอาการอักเสบได้ รวมถึงทำให้สารที่ผิวไม่ต้องการผ่านเข้าไปได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
2. ผิวมัน สิวขึ้นง่าย (Oily Skin / Acne)
การที่PM2.5 สัมผัสผิวหน้านั้น ส่งผลให้เกิดการอักเสบของรูขุมขน ทำให้เกิดการสร้างเหงื่อที่มากขึ้น ผิวหน้ามันขึ้น จึงส่งผลให้เกิดสิวที่มากขึ้น
3. ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้ง และแก่ก่อนวัย
เมื่อผิวหน้าเกิดการสะสมPM2.5 มากขึ้น ก็สามารถทำให้ชั้นปกป้องผิวเกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น เมื่อเกิดการอักเสบผิวจึงไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ ส่งผลให้ผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น ซึ่งเกิดได้กับทุกสภาพผิว
4. ฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำ
PM2.5 นั้นสามารถทำลายเกราะป้องกันผิวได้ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการอักเสบที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีที่มากขึ้นในชั้นของหนังกำพร้า โดยจะเริ่มจากการที่ผิวแดงง่าย และหลังจากนั้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีที่เข้มขึ้นจนเกิดเป็นฝ้า กระ
ดังนั้นการที่จะดูแลผิวพรรณให้พร้อมเผชิญกับทุกมลภาวะก็ควรที่จะเลือกใช้ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดหรือส่วนผสมที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการ Anti-Pollution ด้วยเช่นกัน เพราะไม่ใช่ว่าครีมอะไรก็ได้จะช่วยป้องกันผิวหน้าเราจาก PM2.5 ซึ่งทางบริษัท ควอลิตี้ พลัสฯ เอง เราก็ได้มีในส่วนของตัวสารสกัดที่ช่วยในส่วนของการ Anti-Pollution ด้วยเช่นกัน ถ้าเกิดท่านใดสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ตามปุ่มด้านล่างนี้