เมล็ดมะม่วงกับเครื่องสำอาง
มะม่วง เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีรสชาติดี รับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก ให้พลังงานสูง มีโพแทสเซียม เส้นใยอาหาร และวิตามิน หลายคนเชื่อว่ามะม่วงอาจมีคุณสมบัติต้านเบาหวาน มะเร็ง การอักเสบ การติดเชื้อต่างๆ และสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ นอกจากรสชาติที่ดีแล้ว มะม่วงยังอุดมไปด้วยโปรวิตามินเอ (Provitamin A) วิตามินอี (Vitamin E) สารพอลิฟีนอล (Polyphynols) ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แมงจิเฟอริน (Mangiferin) กรดแกลลิก (Gallic Acid) แกลโลแทนนิน (Gallotannins) เควอซิทิน (Quercetin) ไอโซเควอซิทิน (Isoquercetin) กรดเอลลาจิก (Ellagic Acid) และเบต้ากลูโคแกลลิน (β-Glucogallin) ทำให้มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ ในอุตสาหกรรมอาหารจึงนิยมนำเนื้อมะม่วงมาแปรรูปเป็นผลไม้อบแห้งเพื่อส่งออกต่างประเทศ
จากการวิจัยสารสำคัญต่างๆ พบว่า เนื้อในเมล็ดมะม่วงมีคุณค่าทางโภชนาการสูงเพราะอุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน แป้ง และเส้นใย และมีความปลอดภัยสูงหากใช้บริโภค นับว่าเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญเนื่องจากมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย และสารสกัดจากเมล็ดมะม่วงยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกหลากหลายด้าน รวมถึงทางด้านอุสาหกรรมเครื่องสำอาง และความงาม บริษัท ควอลิตี้ พลัสฯ มีความสนใจในด้านการพัฒนางานวิจัยขั้นสูง จึงได้ร่วมกับสถาบันผลิตผลเกษตรฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อต่อยอดงานวิจัยสารสกัดจากเมล็ดมะม่วง มาพัฒนาเป็นวัตถุดิบที่สามารถต่อยอดสู่อุตสาหกรรมความงามในระดับโลก โดยมีผลงานวิจัยเชิงลึก (Deep Biotechnology) แบ่งออกเป็นรายการดังต่อไปนี้
- สารสกัดจากเมล็ดมะม่วง
- Liposome Mango
ทำไมต้องเป็นสารสกัดจากเมล็ดมะม่วง
ในอุตสาหกรรมอาหาร เมล็ดมะม่วงเป็นวัสดุเหลือทิ้งและไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์ให้เกิดมูลค่า เมื่อมีการศึกษา วิจัย ค้นคว้าขั้นสูง พบว่า เนื้อในเมล็ดมะม่วงอุดมด้วยสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมลอิสระสูง ประเภท ฟีนอลิกเช่น แทนนิน (Hydrolysable Tannin) และ แกลโลแทนนิน (Gallotannin) โปรแอนโทไซยานิดิน (Proanthocyanidins) และสารฟีนอลิก เช่น กรดแกลลิก (Gallic Acid) กรดแอลลาจิก (Ellagic Acid) และ อีพิแคทเทชิน (Epicatechin) กรดแกลลิก (Gallic Acid) ผลการสกัดสารประกอบฟีโนลิก (Phenolic) จากเมล็ดมะม่วงพบว่า มีปริมาณที่สูงมาก มีประสิทธิภาพในการต้านเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinases) ที่สูง มีฤทธิ์ทางชีวภาพ และต้านอนุมูลอิสระ ให้ความชุ่มชื้นและชะลอการแก่ของเซลล์ผิวหนัง มีศักยภาพในการนำไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้
นอกจากนี้ การรับประทานเนื้อในเมล็ดมะม่วงเป็นอาหารเสริมจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันร่างกายจากพยาธิสภาพต่างๆ ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ เช่น โรคความจำเสื่อม โรคหัวใจ และ มะเร็งได้ ต้องมีการศึกษา วิจัยและค้นคว้าต่อไป
สารสกัดจากเมล็ดมะม่วงจึงมีศักยภาพสูงในการนำมาใช้เป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพในด้านอุสาหกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และความงาม โดย บริษัท ควอลิตี้ พลัสฯ ได้มีโอกาสดำเนินการศึกษาและดำเนินการวิจัย ร่วมกับนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญในการวิจัยสารสกัดจากเมล็ดมะม่วง และนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ต่อไป
คุณสมบัติของเมล็ดมะม่วง
- ต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant)
- ลดรอยดำ (Reduce dark spots)
- เพิ่มความกระจ่ายใส (Whitening)
- ลดริ้วรอยที่เกิดจากความแห้งกร้าน (Reduce wrinkles caused by dryness)
การนำไปใช้ประโยชน์ของสารสกัดจากเมล็ดมะม่วง
- อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงาม (Cosmetic Industry) สารสกัดจากเมล็ดมะม่วงประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ (Anti-Oxidant) ต้านเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดริ้วรอย ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinases) จึงสามารถนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภทต่างๆ ในการบำรุงผิว เช่น ผลิตภัณฑ์ต้านริ้วรอย ผลิตภัณฑ์ต้านอนุมูลอิสระ ผลิตภัณฑ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกในการเกิดสิวหนอง หรือผลิตภัณฑ์ทุกประเภทได้
- อุสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Food Supplementary) สารสกัดจากเมล็ดมะม่วง ทีมีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ (Anti-Oxidant)ช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งชนิดเนื้องอก เสริมความคุ้มกันให้ร่างกายต่อต้านเชื้อโรค สมานแผล เสริมภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมการทำงานของเม็ดเลือดแดง ชะลอการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือด ลดภาวะการเป็นโรคหัวใจ ชะลอความเสื่อมของดวงตา ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล สามารถนำไปพัมนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทต่างๆ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย และสุขภาพที่ดีได้อีกด้วย
- อุตสาหกรรมยา (Medicine Industry) สารสกัดจากเมล็ดมะม่วงที่มีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ (Anti-Oxidant) สามารถนำไปศึกษาและพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ยาประเภทต่างๆได้ เช่นยาสมุนไพรในการปฐมพยาบาลเบื้อต้น ยาสมุนไพรในการสมานแผล แก้ท้องเสีย ที่ต้องมีการศึกษา วิจัยและทดลองเพื่อพัฒนาต่อยอดต่อไป
การพัฒนาต่อยอดงานวิจัยสารสกัดจากเมล็ดมะม่วง
ปัจจุบัน บริษัท ควอลิตี้ พลัสฯ ได้มีการพัฒนางานวิจัยต่อยอด สู่การใช้ประโยชน์สารสกัดจากเมล็ดมะม่วงร่วมกับสถาบันวิจัยชั้นนำในประเทศหลากหลายสถาบัน ร่วมถึงหน่วยงานเอกชน สถาบันวิจัย จากประเทศแคนาดา ประเทศบราซิล และประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้หากท่านมีความสนใจร่วมลงทุนเพื่อพัฒนางานวิจัยกับทาง บริษัท ควอลิตี้ พลัสฯ ในรูปแบบการพัฒนาสิทธิบัตรทางการค้าในด้านสารสกัด และสูตรผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของท่านเอง สามารถติดต่อมาที่บริษัทโดยตรง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Quality Plus มีผู้แพทย์เชี่ยวชาญและทีมวิจัยพร้อมให้คำปรึกษากับการสร้างแบรนด์ของคุณเพื่อตอบโจทย์กับผู้บริโภคและมีทีมการตลาดที่จะให้คำปรึกษาผลิตภัณฑ์ของคุณให้เป็นผู้นำตลาดและประสบความสำเร็จ