ทำแบรนด์เครืองสำอางรู้รึยัง? ของแถม ภัยเงียบที่มากับเครื่องสำอาง
ตอนนี้หน่วยงานของภาครัฐ และเอกชนหลาย ๆ หน่วยงานออกมาตื่นตัว และรณรงค์เรื่องการลดและเลิกใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use Plastic) อย่างจริงจัง เพื่อต้องการลดปริมาณขยะที่ย่อยสลายยาก และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ตามแผนปฏิบัติการณ์เริ่มตั้งปี 2561 – 2580 โดยประเภทพลาสติกที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของแบรนด์เครืองสำอาง เพราะเป็นเทรนด์ที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ และใส่ใจ หากเจ้าของแบรนด์ครีมใส่ใจก็จะเป็นการสร้างจุดเด่นให้กับแบนด์ และสามารถนำไปเป็นเครื่องมือทางการตลาดได้
ประเภทพลาสติกที่เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง ควรลดและยกเลิกการใช้
- ไมโครบีดส์ (Microbead) ในเครืองสำอาง
- พลาสติกหุ้มฝา (Cap seal) ที่ใช้หุ้มขวดบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ
- ถุงพลาสติก (Plastic Bag) ที่ไว้ใส่สินค้า
โดยเฉพาะ ไมโครบีดส์ (Microbead)หรือที่เราเรียกให้สั้นว่า ‘เม็ดบีดส์’ ที่จะพบในผลิตภัณฑ์เครืองสำอาง เช่น สคลับในโฟมล้างหน้า ยาสีฟัน ครีมอาบน้ำ ครีมกันแดด โลชั่น และผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ขัดทำความสะอาดใบหน้าอื่นๆ ด้วยขนาดที่เล็กมากๆ ขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตร ทำให้เจ้าเม็ดบีดส์นี้ สามารถรอดทะลุผ่านตัวกรองทุกชนิด และไหลไปรวมกันอยู่ที่แม่น้ำ ท้องทะเล มหาสมุทรได้ โดยเม็ดบีดส์เมื่อลงไปสู่แม่ ท้องทะเล หรือมหาสมุทร จะเป็นตัวดูดซับสารพิษ เมื่อปลาหรือสัตว์ในท้องทะเลกินเจ้าเม็ดบีดส์ที่เต็มไปด้วยสารพิษสะสม ก็จะทำให้ปลา และสัตว์น้ำตายได้
ในหลายประเทศทั่วโลกจึงได้หันมารณรงค์ และได้มีการออกกฏหมายการใช้ไมโครบิดส์ที่ส่วนใหญ่มักแฝงอยู่ในส่วนผสมของเครื่องสำอางได้ เพื่อปกป้องภัยร้ายแก่ผู้บริโภค และระบบนิเวศน์ของโลก และทาง บริษัท คลอลิตี้ พลัส ฯ เอง ก็เห็นถึงความสำคัญต่อภัยร้ายที่แฝงอยู่ในผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอางเหล่านี้เช่นกัน จึงได้ยออกประกาศยกเลิกการผลิตสินค้าที่มีส่วนผสมของสารพลาสติกไมโครบิดส์ หรือ ไมโครบีดส์นี้ ตั้งแต่ปี 2560
นอกจากการสร้างผลิตภัณฑ์ความงามและเครืองสำอางที่ไม่ใช่พลาสติกจะเป็นการช่วยลดมลพิษที่ทำลายระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อมแล้ว เจ้าของแบรนด์ยังสามารถสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ และเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าได้เช่นกัน
