มีผลบังคับใช้แล้ว แบงค์ส่งข้อมูลบัญชีให้สรรพากร ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) เกี่ยวกับการดำเนินงานตามแผนยุทธศาตร์การพัฒนาโครงการพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป ซึ่งมีผลบังคับใช้ทุกคน ไม่เฉพาะผู้ประกอบกิจการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
โดยพ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว ทางกรมสรรพากร ได้แจ้งรายละเอียดไว้ในเฟสบุ๊คของกรมสรรพากร (Revenue Department) ว่าเพื่อรองรับระบบภาษี และเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ตามแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment Master Plan และ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี จากเดิมผู้เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในอัตรา 3% จะต้องเตรียมเอกสารมายื่นต่อกรมสรรพากรเอง แต่สถาบันการเงินจะหักภาษี และเป็นผู้ยื่นให้แทนทั้งหมด รวมทั้งเป็นการรองรับการยื่นเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ของผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จากเดิมที่ต้องยื่นเอกสารเป็นกระดาษ ก็จะเปลี่ยนเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์แทน
ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ e-Tax Invoice / e-Receipt ผู้ประกอบการสามารถจัดทำใบกำกับภาษี และใบรับในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และสามารถส่งข้อมูลใบกำกับภาษีผ่านช่องทางที่กรมสรรพากรกำหนด สำหรับบริการ e-Withholding Tax ผู้จ่ายเงินได้สามารถเลือกตัวจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านตัวกลาง เช่น ธนาคาร ได้เป็นต้น รวมถึง e-Filing รองรับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีครบทุกรูปแบบ ซึ่งเพิ่มช่องทางการยื่นแบบออนไลน์ รวมถึงรองรับการยื่นแบบภายในเวลาหรือเกินกำหนดระยะเวลา
สำหรับข้อมูลธุรกรรมลักษณะเฉพาะ หรือข้อมูลบัญชีที่เข้าในข่าย ที่ธนาคาร สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการ e-Walletให้กรมสรรพากร ประกอบด้วย
- การฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน ตั้งแต่ 3,000 ครั้ง/ปี/ธนาคาร
- การฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน ตั้งแต่ 400 ครั้ง/ปี/ธนาคาร และยอดรวมตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปนั้น
โดยการส่งข้อมูลธุรกรรมของธนาคาร และ สถาบันการเงินดังกล่าว กรมสรรพากร ได้ยืนยันว่า เป็นการส่งข้อมูลเพื่อทำให้สามารถแยกข้อมูลผู้เสียภาษี รวมทั้งกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ได้แม่นยำมากขึ้นเท่านั้น กรมฯ ต้องการเฉพาะข้อมูล ชื่อ นามสกุล จำนวนครั้งที่ฝากโอน และวงเงินที่ได้รับเท่านั้น เพื่อไปทำการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เสียภาษี กลุ่มผู้เสียภาษี สำหรับทำแผนปรับปรุงประสิทธิภาพจัดเก็บต่อไป
แม้ว่า พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) พ.ศ. จะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2562 นี้เป็นต้นไป แต่ได้มีการระบุว่ากำหนดให้ ธนาคาร สถาบันการเงิน สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการ e-Wallet ส่งข้อมูลธุรกรรมลักษณะเฉพาะให้กรมสรรพากร ครั้งแรกภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยแยกเป็นรายธนาคาร และไม่มีการเชื่อมโยงกัน