ข่าวสาร

Press Release / ข่าวประชาสัมพันธ์

Press Release / ข่าวประชาสัมพันธ์

บริษัท ควอลิตี้ พลัสฯ และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมทำข้อตกลงการถ่ายทอดและให้ใช้ประโยชน์ผลงานวิจัย สารแซนโทน(Xanthone) จากเปลือกมังคุด

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2562 ประธานบริษัท ควอลิตี้ พลัสฯ และ กรรมการผู้จัดการบริษัท ควอลิตี้ พลัสฯ ร่วมลงนามทำข้อตกลงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยสารแซนโทน (Xanthone) จากเปลือกมังคุด ร่วมกับ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ดร.มะลิวัลย์​ หฤทัยธนาสันติ์ และผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารภายใน ดร.อุดมลักษณ์ สุขอัตตะ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยการลงนามร่วมทำข้อตกลงในครั้งนี้เป็นการร่วมมือระหว่างบริษัท ควอลิตี้ พลัสฯ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งถือเป็นการทำความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐบาล เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลซึ่งส่งเสริมให้ภาครัฐและเอกชนทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ โดยการลงนามครั้งนี้ ทั้ง 2 องค์กรได้มีการนำผลงานวิจัย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงามในเชิงพาณิชย์ และส่งเสริมการส่งออกยังตลาดความงามในระดับโลก

โดยงานในครั้งนี้รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ได้กล่าวถึงความน่ายินดีที่สารสกัดงานวิจัยได้ถูกใช้นำไปต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบจากภาคเกษตรกรรมพร้อมทั้งยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีการร่วมมือจากภาคเอกชนเพื่อผลักดันงานวิจัยที่ได้จากการนำวัตถุดิบจากภาคเกษตรกรรมมาต่อยอดในงานวิจัย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตสู่ตลาดโลก

ส่วนในด้านของประธานบริษัท ควอลิตี้ พลัสฯ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การร่วมลงนามในครั้งนี้ถือเป็นการทลายหิ้งงานวิจัยสู่การนำไปใช้ในรูปแบบเชิงพาณิชย์อย่างสมบูรณ์ โดยงานวิจัยสารสกัดที่ได้จากเปลือกมังคุดเป็นการนำวัตถุดิบจากภาคเกษตรกรมาต่อยอดในงานวิจัย ซึ่งถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตรของไทย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยทั้งในและต่างประเทศ โดยการร่วมมือครั้งนี้เป็นการส่งเสริมนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ภาครัฐและเอกชนทำความร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้ทางบริษัทควอลิตี้พลัสฯ ยังมีแผนในส่วนของการดำเนินธุรกิจเพื่อต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสารแซนโทน (Xanthone) ไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย”